ส.ลูกหนังไทย จ่อใช้โค้ชคนไทย เข้ากุมบังเหียนช้างศึก ยู-23 ปี สานฝันให้สมาคมที่วางเป้าต้องคว้าตั๋วโอลิมปิก 2024 ให้ได้ เหตุไม่จ้างโค้ชนอกเพราะสมาคมขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไร้งบประมาณจึงไม่เพียงพอไปจ้างโค้ชต่างชาติเข้ามาทำทีม
สืบเนื่องจากการที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประกาศขอไปเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เพียงชุดเดียว ด้วยเหตุผลในเรื่องของสุขภาพ ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงต้องมีการวางแผนแตรียมทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี กับเป้าหมายที่ตั้งไว้คือการคว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ให้ได้ ทว่าถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกุนซือใหญ่ของทีม รวมถึงยังไม่ทราบว่าจะเป็นโค้ชชาวไทยหรือต่างชาติกันแน่
ล่าสุด มีกระแสข่าวลือและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากว่า ส.บอลไทย ที่กำลังให้ฝ่ายเทคนิคเร่งและนำเสนอข้อมูลเพื่อเฟ้นหา เฮดโค้ชทีมชาติไทย ยู-23 ปีให้ประมุขบอลไทยได้พิจารณา อาจจะต้องหันมาใช้กุนซือใหญ่ที่เป็นคนไทยแท้ๆ กุมบังเหียนช้างศึก ยู-23 โดยแหล่งข่าววงในระดับสูงระบุว่า ปัจจุบัน ส.บอลไทย กำลังอยู่ในภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินเป็นอย่างมาก จึงไม่มีงบประมาณเพียงพอในการจ้างกุนซือต่างชาติเข้ามาทำทีม ซึ่ง ณ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ขณะเดียวกันยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ฝ่ายเทคนิคของ ส.บอลไทย ต้องการกุนซือที่เข้าใจนักเตะในชุดต่ำกว่าไม่เกิน 23 ปี ทั้งอุปนิสัย สไตล์การเล่น วิธีการเล่น ทักษะต่างๆ เพื่อเข้ามาจัดการนักเตะทีมชาติไทย ยู-23 ปี ให้เป็นไปตามเป้าหมายหลักของ ส.บอลไทย ที่ต้องการคว้าโควต้าไปเล่นเวทีโอลิมปิก 2024 ให้ได้ รวมถึงการต่อยอดก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เพื่อไปช่วยล่าตั๋วฟุตบอลโลก 2026 ต่อไป
สำหรับทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ปี จะมีคิวลงเล่นในช่วงปี 2023 เป็นต้นไป เริ่มจาก ยู-23 ชิงแชมป์อาเซียน, ซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-16 พ.ค.66, เอเชียนเกมส์ ที่จีน ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-8 ต.ค.66, ยู-23 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก (รอกำหนดวันแข่งขัน) ซึ่งเป็นก้าวแรกสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ส่วนรอบสุดท้ายแข่งปี 2024 ตาม
ลำดับ
